มีคนถามผมว่า
“ถ้าคุณสอนคนอื่นเทรด แล้วสุดท้ายระบบของคุณกลายเป็นที่รู้กันทั่วไป มันจะยังใช้ได้อีกเหรอ?”
คำถามนี้ดีมากครับ และผมเข้าใจเลยว่าทำไมหลายคนถึงกังวลแบบนั้น
แต่สำหรับผม…
ผมไม่กลัวครับ
เพราะ “จุดแข็ง” ของผม ไม่ได้อยู่ที่ระบบเพียว ๆ
แต่มันอยู่ที่ “กระบวนการในการพัฒนาระบบ” ให้ ปรับตัวได้กับทุกสภาพตลาด
✅ ตลาดเปลี่ยน… ระบบที่ตายตัว “ตกรุ่น”
ถ้าระบบเทรดคือสูตรสำเร็จ
การเทรดก็จะกลายเป็นแค่การใช้สูตรนั้นซ้ำไปเรื่อย ๆ
แต่ความจริงคือ…
ตลาดไม่เคยนิ่ง
- ช่วงหนึ่งอาจเป็นเทรนด์แรง
- อีกช่วงเป็นไซด์เวย์
- บางครั้งข่าวมีอิทธิพล
- บางครั้งเป็น “ภาพลวงตา” ที่ทำให้คนส่วนใหญ่หลงทาง
ระบบที่ตายตัว ไม่ยืดหยุ่น จะโดนตลาดเขี่ยทิ้งในไม่ช้า
🧠 กระบวนการสำคัญกว่า “กลยุทธ์เดียว”
สิ่งที่ผมทำมาตลอด คือการฝึก “คิดแบบนักพัฒนา”
- มองให้ทะลุว่า setup ไหนเกิดเพราะอะไร
- รู้ว่า keyzone แบบไหนเริ่มเสื่อม
- ปรับ position sizing และจุดเข้าให้เข้ากับ context
ทุกครั้งที่ระบบเริ่มเจอ drawdown ผมจะมองหา root cause แล้วรีดตัวแปรรบกวนออก
สิ่งนี้แหละที่ผมมองว่าเป็น “ขุมพลังหลัก” ที่ทำให้การเทรดยังอยู่รอดได้ แม้วันหนึ่งจะมีคนใช้แนวทางเดียวกันมากขึ้นก็ตาม
🚀 เป้าหมายของผมไม่ใช่แค่ “ใช้ได้ตอนนี้”
แต่คือ “ทำกำไรได้ยาว ๆ โดยไม่พึ่งโชค”
เพราะงั้น ต่อให้ใครจะใช้ระบบเดียวกับผม
แต่ถ้าไม่มี “วิธีคิดแบบเทรดเดอร์ผู้ปรับตัว” ก็ไปไม่สุดอยู่ดี
การสอนของผม จึงไม่ได้เน้นแค่ให้คนลอก setup
แต่ผมพยายามปั้น mindset ที่เข้าใจตลาด เข้าใจความเสี่ยง และมองระบบเป็นสิ่งมีชีวิต ไม่ใช่สูตรสำเร็จ
สรุป
ผมไม่กลัวความ mass
เพราะสิ่งที่ผมถ่ายทอด ไม่ใช่แค่สูตรลัด
แต่คือ วิธีคิดและกระบวนการที่อยู่เบื้องหลังการเอาชนะตลาด
ใครที่เข้าใจสิ่งนี้ได้
ต่อให้ตลาดจะเปลี่ยนอีกกี่รอบ…
เขาก็อยู่รอด และเติบโตได้แน่นอนครับ

ใส่ความเห็น