coinflip

ทำไมคนส่วนใหญ่ “ไม่รวย” ทั้งที่ระบบก็ไม่ได้แย่

ทำไมคนส่วนใหญ่ “ไม่รวย” ทั้งที่ระบบก็ไม่ได้แย่ ลองนึกภาพง่าย ๆ แค่นี้เอง

เกมโยนเหรียญ 2 แบบ

แบบ A

  • มีเงิน 100 บาท
  • โยนเหรียญ ครั้งละ 10 บาท
  • โยนทีละไม้

แบบ B

  • มีเงิน 100 บาทเท่ากัน
  • โยนเหรียญ ครั้งละ 1 บาท
  • โยนพร้อมกัน 10 ไม้

โอกาสชนะ = 50% เท่ากัน
เหรียญเดียวกัน
กติกาเดียวกัน

แต่ผลลัพธ์…
“ต่างกันคนละโลก”


สิ่งที่เกิดขึ้นจริงจากการทดลอง

แบบ A (ลงหนัก พอร์ตเดียว)

  • แกว่งแรงมาก
  • บางรอบกำไรพุ่งเร็ว
  • แต่ในหลาย ๆ ครั้ง…
    👉 เงินจะเหลือ 0 ก่อน

คือ ล้างพอร์ต เร็วกว่าที่คิด

แบบ B (กระจายความเสี่ยง)

  • แกว่งน้อยลงชัดเจน
  • แทบไม่เจอจังหวะเงินหมด
  • ผลลัพธ์ระยะยาว “นิ่งกว่า และอยู่รอดกว่า”

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการเทรด?

แบบ A = การเทรดหรือรัน EA แบบพอร์ตเดียว / all in / เสี่ยงหนัก

  • กำไรช่วงแรกอาจดูโหด
  • ภาพ Myfxbook อาจสวย
  • แต่ในระยะยาว
    👉 โอกาสพอร์ตแตก “สูงมาก”

เพราะในโลกจริง

  • % ชนะ ไม่ได้สูงกว่าโยนเหรียญเท่าไร
  • แถมยังมี อารมณ์ ความกลัว ความโลภ
    ทำให้ขาดทุนหนักกว่าที่ควร

แบบ B = การกระจายความเสี่ยง

  • แบ่งไม้
  • แบ่งพอร์ต
  • แบ่ง EA
  • แบ่งระบบ / time frame / สินทรัพย์

แม้ใช้ “ระบบเดียวกัน”
แต่แค่จัดการความเสี่ยงให้ดีขึ้น

👉 ความผันผวนจะลดลง
👉 กำไรระยะยาวดีขึ้น
👉 โอกาสล้างพอร์ตเข้าใกล้ ศูนย์


เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ไม่รวย

ไม่ใช่เพราะ

  • ระบบไม่ดี
  • ไม่ฉลาด
  • ไม่ขยัน

แต่เพราะ
❌ ไม่กระจายความเสี่ยง
❌ อยากรวยเร็ว
❌ ชอบ all in
❌ ทน drawdown ไม่เป็น

สุดท้ายก็วนลูป

ได้ → เสีย → ล้าง → เริ่มใหม่

ซ้ำไปเรื่อย ๆ


อยากพิสูจน์ด้วยตา ไม่ต้องเชื่อผม

ลองเล่นเอง
เด็กเล่นก็เข้าใจ

👉 https://uttaya.github.io/coin-flip-sim/

แล้วจะเห็นชัดมากว่า
“ความมหัศจรรย์ของการกระจายความเสี่ยง”
มันทรงพลังแค่ไหน


สรุปสั้น ๆ

  • ระบบเดียวกัน
  • โอกาสเท่ากัน
  • แต่ “การจัดการความเสี่ยง”
    คือเส้นแบ่งระหว่าง
    คนอยู่รอด กับคนหายจากตลาด

ถ้าชอบบทความแนวนี้
แชร์ไว้ให้คนที่ยัง all in ได้อ่าน
อาจช่วยเขาไม่ต้องเจ็บแพงเหมือนที่หลายคนเคยเจอ

ใส่ความเห็น

Comments (

0

)